Etude House

Amway สินค้าคุณภาพจากแอมเวย์สั่งซื้อส่งตรงถึงบ้าน

Maybelline สินค้าเพื่อท่านสุภาพสตรี

ทำไม`นอนเยอะ`แล้วยังง่วง?

ที่มา : เว็บไซต์แนวหน้า 

  ปัญหาการนอนไม่ได้มีเพียงแค่การนอนน้อยหรือนอนหลับไม่เพียงพอเท่านั้น แต่การนอนมากเกินไปก็เป็นอีกหนึ่งตัวปัญหา โดยหลายคนคงมีข้อข้องใจว่า ทำไมยังง่วงและรู้สึกไม่สดชื่น แม้ว่าเมื่อคืนจะเข้านอนเร็วแล้วก็ตาม

          วันนี้เราจึงมีคำตอบมาให้คุณ พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น อย่ารอช้า รีบไปอ่านไขข้อข้องใจกันเลย

          1. ความเหนื่อยสะสม

          จริงอยู่ที่การพักผ่อนทำให้คุณฟื้นฟูร่างกายจากอาการเหนื่อยล้าหลังทำงานหนักได้ แต่ร่างกายไม่สามารถฟื้นได้อย่างเต็มที่ด้วยการนอนเพียงคืนเดียวเท่านั้น ความเหนื่อยสะสมมาหลายวันอาจต้องการการพักผ่อนอย่างสม่ำเสมอถึงจะฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาสดชื่นแจ่มใส พร้อมลุยงานใหม่ได้เหมือนเดิม ดังนั้นอาจจะต้องใจเย็นกับร่างกายนิดนึง ให้เวลาพักผ่อนไปเรื่อยๆ สักระยะ อาจดีขึ้นได้

          2. ใช้สมองมากเกินไป

          หลายคนเอาเรื่องงานมาคิดระหว่างนอน หรือบางคนอาจกำลังมีปัญหากับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นการส่วนตัว ก่อนนอนจึงมัวแต่คิดเรื่องนั้น ทำให้สมองไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ไปด้วย ดังนั้นทางแก้คือ อย่านำเรื่องที่ทให้เครียดมาคิดตอนนอน อาจจะลองนั่งสมาธิ กำหนดลมหายใจเข้าออก หรือสวดมนต์ก่อนนอนดู

          3. อ้วน ไขมันเกินมาตรฐาน

          ความอ้วนทำให้ร่างกายเราไม่สดชื่น ไม่กระปรี้กระเปร่าได้ ควรหาเวลาออกกำลังกายเพื่อเพิ่มการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย กระตุ้นการทำงานของหัวใจ ให้เลือดสูบฉีดไปทั่วร่าง เมื่อเอนโดรฟินทำงาน รับรองว่าคราวนี้ร่างกายแข็งแรง หัวใจแข็งแรง นอนหลับสนิท ตื่นมาสดใสแน่นอน

          4. ทานอาหารหวานมากเกินไป

          เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่นำไปสู่โรคอ้วนได้เช่นกัน การที่เราบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลสูงมากๆ อาจทำให้ร่างกายมีปริมาณน้ำตาลในเลือดมากเกินไป ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่สดชื่นแจ่มใส รวมไปถึงอาหารรสจัดจากอาหารหมักดอง รสเค็มจัดด้วย

          วิธีแก้ไข

          - ออกกำลังกายเป็นประจำ

          - อย่าทานอาหารรสจัด

          -ลดความเครียดก่อนเข้านอน หยุดทำงาน หยุดคิดฟุ้งซ่านก่อนเข้านอน 30 นาที

          -ทานอาหารประเภทผักผลไม้มากๆ

          -อย่าทำงานหนักมาก จนร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้ร่างกายอ่อนแอจนทำให้ป่วยได้

Cr: thaihealth สสส

คลิ๊ก บียอนด์ ไลฟ์ เซนเชียล ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับดูแลสุขภาพ

ตะคริว เป็นแล้วอย่ามองข้าม

ที่มา : กภ.ว่าที่ร้อยตรีอรรถพร มงคลภัทรสุข คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล

ตะคริวเป็นอาการหดเกร็งตัวของกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง พบได้ในทุกกล้ามเนื้อแต่ที่มักพบได้บ่อยคือตะคริวที่กล้ามเนื้อน่อง แสดงอาการมักนานไม่เกิน 2 นาที แต่ในบางรายอาจนานถึง 5 นาทีหรือมากกว่า ตะคริวไม่ใช่อาการที่จะส่งผลทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้แต่ก็อาจทำให้เกิดอันตรายได้ถ้าเกิดอาการขณะกำลังว่ายน้ำหรืออาจเกิดอุบัติเหตุได้ถ้าเกิดอาการขณะกำลังขับรถ

แฟ้มภาพ

ตะคริวไม่ใช่อาการที่จะเกิดในขณะที่เล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย ยังสามารถเกิดได้ทุกเวลา บางคนอาจมีอาการในขณะที่กำลังนอนหลับซึ่งทำให้เจ็บปวดทรมานจนรบกวนการนอนได้

สาเหตุการเกิดตะคริวมีได้หลายทฤษฏี ซึ่งอาจเกิดจากการสูญเสียแร่ธาตุแมกนีเซียมไปกับเหงื่อในขณะการออกกำลังเป็นเวลานานๆ หรือมีการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อนั้นๆ เป็นเวลานานๆ ทำให้ขาดการไหลเวียนเลือดขาดการนำออกซิเจนและแร่ธาตุไปที่กล้ามเนื้อนั้น หรือเกิดกับหญิงตั้งครรภ์ที่ต้องสูญเสียแร่ธาตุให้กับลูกตัวน้อยที่กำลังเติบโตอยู่ในท้อง หรือเกิดจากตัวยาบางชนิดที่ได้รับประทานเข้าไป การอาเจียนหรือท้องเสียก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สูญเสียแร่ธาตุแมกนีเซียมได้เช่นกัน นอกจากนั้นยังอาจเกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของเซลล์ประสาทและเส้นประสาทที่ควบคุมการหดและคลายตัวของกล้ามเนื้อนั้นๆ และประการสุดท้ายอาจเกิดจากการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อไม่ดีพอ ซึ่งมักพบในคนที่มีภาวะหลอดเลือดตีบ เช่น โรคเบาหวาน เป็นต้น1 แต่สาเหตุที่พบบ่อยคือ การกินอาหารชนิดเดียวซ้ำๆ ซากๆ การไดเอ็ท และการขาดน้ำ 2

หนทางการรักษาอาการตะคริว

การรักษาที่ดีและเห็นผลได้ชัดเจนคือ การยืดกล้ามเนื้อที่เกิดตะคริว หลักการยืดกล้ามเนื้ออย่างง่ายๆ คือการทำให้เกิดการเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับการเกร็งตัวที่มีการแสดงออกมา อาทิเช่น การเกิดตะคริวที่น่องจะทำให้เกิดการเกร็งปลายเท้าจิกชี้ลงพื้นดิน แก้โดยให้ทำการดันปลายเท้าให้กระดกขึ้นช้าๆ (ถ้ามีคนช่วยยืดให้ ดังรูปที่ 1) แต่ห้ามทำการกระตุกหรือกระชากรุนแรงอย่างรวดเร็ว เพราะจะเจ็บปวดจนกล้ามเนื้อฉีกขาดได้ หากเกิดตะคริวขณะอยู่เพียงลำพังให้พยายามนั่งยองๆ หรือนั่งเหยียดขาค้างที่เป็นตะคริวแล้วพยายามฝืนกระดกข้อเท้าขึ้นดังรูปที่ 2 และ 3 ตามลำดับ ค้างในท่านี้ไว้สักครู่อาการตะคริวที่น่องก็จะดีขึ้น เป็นต้น

ป้องกันอย่างไรไม่ให้ตะคริวกลับมา

หากเกิดอาการตะคริวเพราะสูญเสียเหงื่อมากขณะออกกำลังกายอาจจำเป็นจะต้องมีการปรับสมดุลของน้ำและเกลือแร่ด้วยเครื่องดื่มเกลือแร่ (sport drink) ที่มีขายทั่วไปตามท้องตลาด แต่ถ้าจะทำน้ำเกลือแร่ด้วยตัวเองก็ทำได้ไม่ยาก โดยใช้เกลือ 1/3 ช้อนชา ผสมในน้ำ 500 ซี.ซี. จะบีบมะนาวหรือเติมน้ำหวาน ½ ช้อนชา เพื่อเพิ่มความอร่อยหรืออีกสูตรจะใช้น้ำผลไม้ ½ แก้วผสมน้ำสะอาดอีก ½ แล้ว แต่ทั้ง 2 สูตรควรแช่เย็นและไม่ควรผสมนานเกิน 6 ชั่วโมงเพราะอาจเสียได้ 3 ส่วนตัวผู้เขียนแนะนำน้ำสไปรท์หรือเซเว่นท์อัพใส่เกลือเล็กน้อยก็ทำให้ได้น้ำเกลือแร่ที่มีราคาถูกกว่าน้ำเกลือแร่ที่ขายทั่วไปในท้องตลาดและยังมีรสชาติอร่อยไม่แพ้กันอีกด้วย

การดื่มน้ำให้มากพอก็สามารถช่วยลดการเกิดตะคริวได้ เพราะเวลามีเหงื่อออก ร่างกายจะสูญเสียทั้งน้ำและเกลือแร่ อาจทำให้เซลล์กล้ามเนื้อขาดน้ำ ส่งผลให้เกิดเป็นตะคริวได้ จึงควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร หรือ 8 แก้วต่อวัน

หากต้องมีการแข่งขันที่ต้องสูญเสียเหงื่อปริมาณมาก ควรมีการดื่มน้ำมากๆ ก่อนการแข่งขัน 2-3 วัน เพื่อให้เนื้อเยื่อสำรองน้ำให้เพียงพอในระหว่างการออกกำลังกาย อย่ารีรอเมื่อรู้สึกกระหายน้ำ การดื่มน้ำที่มีประสิทธิภาพคือดื่ม 2 ชั่วโมงก่อนการออกกำลังกายไม่เกิน 3 แก้ว จากนั้น 10-15 นาที ก่อนการออกกำลังกายไม่เกิน 2 แก้ว และทุกๆ 15-30 นาทีระหว่างการออกกำลังกายไม่เกิน 1 แก้ว ขอแนะนำน้ำดื่มสะอาดแช่เย็นก็เพียงพอแล้ว เพราะน้ำสะอาดสามารถเข้าสู่เนื้อเยื่อได้ง่ายและความเย็นจะทำให้รู้สึกสดชื่น3

กล้วย เป็นผลไม้ที่มีการพูดถึงบ่อยสำหรับการป้องกันการเกิดตะคริว ในนักกีฬาประเภทที่ต้องมีการใช้กำลังสูงหรือมีการออกกำลังต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ เช่น นักเทนนิสหรือนักฟุตบอล เพราะกล้วยเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม แคลเซียมและแมกนีเซียม ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของระบบประสาทและการหดตัวของกล้ามเนื้อ อีกทั้งยังเป็นผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงซึ่งจะถูกย่อยและดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว หลังรับประทานเพียงไม่กี่นาทีก็จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมากกว่าผลไม้ชนิดอื่น น้ำตาลที่เพิ่มขึ้นจะถูกนำไปใช้เป็นแหล่งพลังงานแทนคาร์โบไฮเดรตที่สะสมอยู่ในร่างกาย ทำให้สามารถออกกำลังกายได้นานๆ โดยไม่มีอาการเหนื่อย คนที่มิใช่นักกีฬาแต่ต้องการชดเชยแร่ธาตุที่สูญเสียไป ก็สามารถรับประทานกล้วยได้

การยืดกล้ามเนื้อสม่ำเสมอ ให้ร่างกายคลายความตึงตัวมีความยืดหยุ่นตลอดเวลาเพื่อลดโอกาสการเกิดตะคริวได้ ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และพักผ่อนให้เพียงพอ

ผู้สูงอายุควรค่อยขยับแขนขาช้าๆ และหลีกเลี่ยงอากาศเย็นมากๆ อาจสวมใส่ถุงเท้าตอนนอนเพื่อป้องกันการเกร็งของเท้าในรายที่เป็นบ่อยๆ ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและแก้ไข

Cr: thaihealth สสส

คลิ๊ก ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชิโครี่ไฟเบอร์ แคลเซียม และวิตามินดี

อาหารเสริม” จำเป็นหรือไม่?

ที่มา : ภญ.ฐนิตา  ทวีธรรมเจริญ ฝ่ายเภสัชกรรม รพ.ศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

พวกเราคงคุ้นเคยกับคำว่า “รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่” คืออาหารจำพวก คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่ แต่จากสภาวะเร่งในชีวิตประจำวันทำให้บางคนไม่สามารถปฏิบัติตนตามนั้นได้ เช่น ต้องรีบตื่นแต่เช้าไปทำงานหรือเรียนหนังสือ ต้องทำงานยุ่งทั้งวันทำให้รู้สึกอ่อนเพลียและเครียด ทำให้ปัจจุบัน “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร” จึงเข้ามามีบทบาทในชีวิตใครหลายๆคน แต่เจ้าอาหารเสริมจะดีและสำคัญจริงหรือไม่ อย่างไร ต้องไปติดตามกันค่ะ

แฟ้มภาพ

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจำเป็นต้องกินหรือไม่ ?

หลายคนคิดว่าอาหารเสริมสะดวกต่อการรับประทาน และทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนตามความต้องการ อีกทั้งสามารถชดเชยสารอาหารที่ขาดไปได้ทั้งหมด ซึ่ง เป็นความเชื่อที่ผิด อย่างไรก็ดี ในบางสภาวะของร่างกาย เช่นผู้ป่วยที่เบื่ออาหาร หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุร่างกายจำเป็นต้องได้รับสารอาหารมากกว่าปกติ เพราะบางรายแม้จะรับประทานอาหารตามปกติแต่ร่างกายไม่สามารถดูดซึมได้เท่าเดิมและอาจทำให้ร่างกายเดสภาวะขาดสารอาหารได้ ดังนั้นการรับประทานอาหารเสริมจึงอาจมีความจำเป็น นอกจากนี้ หากเรามีร่างกายแข็งแรงเป็นปกติ แต่ เลือกรับประทานอาหาร ก็อาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารบางชนิดได้เช่นกัน ซึ่งกรณีนี้ควรปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หรืออาจเสริมสารอาหารในบางชนิดในส่วนที่ขาดตามความจำเป็น

อยากสมองดีเรียนเก่ง อาหารเสริมช่วยได้หรือไม่ ?

อาหารเป็นเพียงปัจจัยช่วยให้สมองมีการพัฒนาที่ดีแต่ไม่ใช้ปัจจัยที่ทำให้เรียนเก่ง เพราะการเรียนเก่ง นอกจากจะต้องสมองดีแล้วยังจำเป็นต้องมีความตั้งใจ การฝึกฝน กรรมพันธุ์ และสภาพแวดล้อม มักมีการกล่าวว่าอาหารเสริม เช่นสารสกัดจากใบแปะก๊วย น้ำมันปลา ซุปไก่ วิตามินต่างๆ สามารถทำให้ความจำดีขึ้น แต่หลักฐานที่แน่ชัดทางวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจน

อยากลด โคเลสเตอรอล อาหารเสริมชนิดใดช่วยได้ ?

ปัจจุบันภาวะไขมัน และ โคเลสเตอรอลในเลือดสูงเป็นปัญหาที่สำคัญ เพราะส่งผลกระทบต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดอย่างมาก และถือว่าเป็น “ภัยเงียบที่ร้ายแรง” แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นแต่ผู้ร้ายเท่านั้น ในฐานะพระเอกนั้น โคเลสเตอรอลเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในเซลล์เมมเบรน (cell membrane) ช่วยเซลล์ในการทำงานต่างๆ ของร่างกาย เช่นช่วยดูดซึมวิตามินที่ละลายได้ในไขมัน ( วิตามินเอ วิตามินอี และ วิตามินเค ) และกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายเข้าสู่เซลล์โคเลสเตอรอล จะมีส่วนช่วยในขบวนการสารฮอร์โมนเพศทั้งชายและหญิง และรวมถึง สเตียรอยด์ฮอร์โมน (steroidal hormones) ซึ่งจะไปเกี่ยวข้องกับสุขภาพที่สำคัญของร่ายกายคือระบบภูมิต้านทานของร่ายกายและการทำงานที่สมบูรณ์ของระบบฮอร์โมน

โคเลสเตอรอล มี 2 ชนิด คือ

1.ชนิดดี (High Density Lipoprotein : HDL) จะช่วยขับโคเลสเตอรอลที่เกินความต้องการออกจากร่างกาย จะได้จากอาหารและร่างกายผลิตขึ้นเอง โคเลสเตอรอลชนิดนี้ยิ่งสูงยิ่งดีมีประโยชน์ต่อร่ายกาย

2.ชนิดไม่ดี (Low Density lipoprotein : LDL) มีโทษต่อร่างกาย ได้จากอาหารประเภทเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์

ดังนั้น การดูค่าหรือระดับของโคเลสเตอรอลในร่างกายควรที่จะดูสัดส่วนของ HDL กับ LDL จะดีกว่า มักมีการพูดกันว่ามีอาหารเสริมมากมายที่ช่วยส่งเสริมให้ระบบการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดแข็งแรงมีสุขภาพดีขึ้น เช่น อาหารช่วยต้านอนุมูลอิสระที่มักมีผู้กล่าวถึงได้แก่ วิตามินอี กระเทียม เมล็ดองุ่น Coenzyme Q10 อาหารชนิดนี้จะช่วยป้องกันการเกิดอนุภาคออกซิไดซ์ของ LDL หรือ โคเลสเตอรอลที่ไม่ดี (โคเลสเตอรอลจะกลายเป็นศัตรูร้ายทันทีที่มันเกิดการแตกตัวเป็นอนุภาคออกซิเดชั่น) ซึ่งมีทั้งที่ผ่านการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์และยังไม่มีการพิสูจน์ที่ชัดเจนนัก หากจะเลือกซื้อรับประทานอาจต้องใช้ดุลยพินิจให้ดีอย่าเชื่อเพียงข้อความโฆษณา

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการมีสุขภาพดี ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด และต้องการมีระบบหัวใจและหลอดเลือดที่แข็งแรงควรจะปฏิบัติตัวง่ายๆ คือ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ลดอาหารที่มีไขมันสูง เพราะเป็นหนทางที่มีการพิสูจน์ให้เห็นได้ชัดเจนแถมยังประหยัดเงินอีกต่างหาก

กินอาหารเสริมอย่างไรช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่

ปัจจัยในการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่มีหลายประการไม่ว่าจะเป็น การรับประทานอาหารที่มีกากน้อย ไม่ค่อยมีการขับถ่าย ความเครียดและพันธุกรรม บางคนเชื่อว่าการกินแคลเซียมร่วมกับวิตามินดีจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ แต่จากข้อมูลที่มีรายงานการศึกษาวิจัยระหว่างกลุ่มที่รับประทานและกลุ่มที่ไม่ได้รับประทานอาหารเสริมที่มีแคลเซียมผสมวิตามินดี ยังไม่พบความแตกต่างของทั้ง 2 กลุ่ม อย่างไรก็ตามในอนาคตอาจมีการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้นและเราคงต้องติดตามกันต่อไป แต่ปัจจุบันการรับประทานอาหารที่มีกากมากขึ้นได้แก่ พวกผัก ผลไม้ ทำจิตใจให้แจ่มใสไม่เครียดและหมั่นออกกำลังกายอย่างพอเหมาะกับร่างกาย เป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับว่าสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี

ถ้ารับประทานอาหารเสริมเป็นเวลานานจะเกิดการสะสมในร่างกายหรือไม่?

การรับประทานยาหรืออาหารเสริมแต่ละอย่าง ควรรู้ถึงสรรพคุณ ข้อดี ข้อเสียของสิ่งนั้นเพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาเลือกใช้ เพาระไม่ว่าจะเป็นยาหรืออาหารเสริมล้วนเปรียบเสมือนดาบสองคมคือมีทั้งคุณและโทษ เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบางชนิดมีสารอาหารบางอย่างซึ่งเมื่อรับประทานเข้าไปนานๆอาจเกิดการสะสมในร่างกาย เช่น วิตามินที่ละลายในไขมัน (วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี และวิตามินเค) หรือบางชนิดมีแร่ธาตุบางอย่างมากเกินไปไม่เหมาะกับสภาวะร่างกายของเรา บางชนิดมีสารบางอย่างซึ่งอาจเกิดปฏิกิริยากับยาที่เรารับประทานอยู่เป็นต้น

ดังนั้น การที่จะรับประทานอาหารเสริมให้ได้ผลดีและปลอดภัย ผู้บริโภคจึงควรจะศึกษาหาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือ และยิ่งถ้าหากท่านเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้วควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองค่ะ

Cr: thaihealth สสส

คลิ๊ก บียอนด์ ไลฟ์ เซนเชียล ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับดูแลสุขภาพ

สกัด `ข้อเข่าเสื่อม` ก่อนลุกลาม

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

แฟ้มภาพ

          เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ก้าวสู่วัยสูงอายุ นอกจากปัญหาสุขภาพ "กลุ่มโรคเรื้อรัง" เผชิญกับภาวะความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ และหลอดเลือดแล้ว โรคที่เกี่ยวเนื่อง กับโครงสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อ  "โรคข้อเข่าเสื่อม" นับเป็นอีกปัญหาสุขภาพใกล้ตัวที่สร้างความทุกข์ทรมาน ...

          ปัจจุบันการดูแลสุขภาพด้วยการแพทย์แผนไทย สมุนไพร นับเป็นอีกทางเลือกที่ได้รับการตอบรับ สำหรับโรคปวดเข่า "ข้อเข่าเสื่อม" พท.ป.อังสนาภรณ์ พานิชอนุเคราะห์กุล แพทย์แผนไทยปฏิบัติการ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน กระทรวงสาธารณะสุขให้ความรู้ แนะนำการดูแลสุขภาพก่อนโรคลุกลามว่า ข้อเข่าเสื่อมพบได้กับทุกเพศวัย แต่โดยส่วนมากมักพบในผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป แต่อย่างไรก็ตามในระหว่างนี้ก็อาจมีภาวะป่วยเรื้อรังที่เพิ่มขึ้น และก้าวสู่ภาวะข้อเข่าเสื่อมอย่างแท้จริง !

          "ข้อเข่าเสื่อมทางการแพทย์แผนปัจจุบันเป็นเรื่องของข้อต่อ กระดูกอ่อน ตรงบริเวณข้อเข่าเสื่อมสภาพบาง ลง ทำให้บริเวณกระดูกเสียดสีกันมากขึ้น ทำให้เกิดอาการบวมแดง น้ำในข้อเข่ามีมากขึ้น เกิดเป็นอาการปวดขัด เจ็บ ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันลำบากเพิ่มขึ้น ไม่สามารถจะ นั่งยอง ๆ หรือนั่งพับเพียบได้

          แต่ทางแพทย์แผนไทย เป็นโรคที่เกี่ยวเนื่องกับ 'ลม" เป็นลมชนิดหนึ่งที่ทำให้เลือดตกตะกอนที่บริเวณข้อ ซึ่งจะพบที่ข้อเข่าและข้อเท้า โดยเมื่อเทียบกับการแพทย์ปัจจุบันพบบริเวณที่ข้อเข่า แบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ ลมจับโปงน้ำ และลมจับโปงแห้ง"

          "ลมจับโปงน้ำ" หรือ "ลมจับโปงแห้ง" โรคดังกล่าวมี ลักษณะของข้อเข่าที่มีอาการปวด บวมแดงร้อนชัดเจน คนไข้อาจมีอาการสะบัดร้อน สะบัดหนาว มีอาการของไข้  ส่วนอีกชนิด "โรคลมจับโปงแห้ง" อาการจะคล้ายคลึงกัน ปวด บวมแดง แต่จะเห็นเพียงเล็กน้อย ไม่มาก แต่สิ่งที่จะเห็นชัดเจนคือ ข้อเข่าจะมีเสียงกอบแกบ  มีอาการติดขัดของข้อที่ชัดเจนขึ้น และโดยทั่วไปสาเหตุของโรคทางแพทย์แผนไทยมองว่า การเกิดโรคต่าง ๆ เกิดจากธาตุแปรเปลี่ยนไป ประกอบกับ มูลเหตุการเกิดโรค เกิดจากอาหาร อิริยาบทและอากาศ อย่างเช่น อาหาร รับประทานอาหารที่เป็นของแสลงในปริมาณมาก ๆ  ไม่ควบคุมน้ำหนักตัว โดยหากน้ำหนักมากขึ้นจะสร้างปัญหาที่ข้อเข่าได้

          ขณะที่การยืนนาน ๆ เดินมาก ๆ ก็ทำให้เกิดปัญหากับข้อเข่าได้เช่นกัน รวมถึงอากาศที่มีความร้อน ความเย็น อากาศที่แปรเปลี่ยนไปก็ส่งผลกระทบได้...

          การรักษาแพทย์จะทำการตรวจอาการและซักประวัติ พร้อมกับสังเกตอาการของผู้ป่วย ทั้งนี้ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในปัจจุบันพบผู้สูงอายุป่วยด้วยโรคข้อเข้าเสื่อมจำนวนมาก และนอกจากการรักษาด้วยยาทางเวชกรรมแผนไทย ยังใช้การนวดเป็นการรักษาแบบองค์รวม

          ยาสมุนไพรที่ใช้ อาทิ ขี้ผึ้ง ยาหม่อง ฯลฯ สรรพคุณช่วยลดการตึงของกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวด ขณะที่ยาทานมีหลายตัวยาสมุนไพร ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ใช้วิธีการพอกยาสมุนไพรร่วมด้วย ฯลฯ จากการศึกษา การรักษาจับโปงน้ำด้วยการแพทย์แผนไทย สมุนไพร พบการเปลี่ยนแปลงภายใน 2 สัปดาห์ โดยมีรายงานวิจัยรองรับ ส่วนลักษณะของจับโปงแห้ง อาจใช้ระยะเวลาที่นานเพิ่มขึ้นประมาณ 1-2 เดือนขึ้นไปจึงจะเห็นผลการรักษา

          "การรักษาด้วยการแพทย์แผนไทยสามารถช่วย ประคับประคองก่อนโรคลุกลามและทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะ "กลุ่มเสี่ยง" จากที่อาการเข่าบวม หากละเลยไม่รับการรักษาอาจทำให้เข่าผิดรูป เข่าโตขึ้น ไม่สามารถเดินไปไกล ๆ ได้ หรือนั่งพับเพียบได้ หรือไม่สามารถปฏิบัติกิจวัติประจำวัน เพราะมีอาการปวดเข่าเข้ามาบั่นทอนการป้องกันดูแลสุขภาพนับแต่เบื้องต้น ก่อนเข้าสู่กลุ่มเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเป็นโรค การเข้ารับการรักษาก็จะช่วยให้คุณภาพชีวิตผู้ป่วยดีขึ้น มีความสุขและอยู่กับโรคได้โดยไม่วิตกกังวล"

          คุณหมอกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า อาหารและการออกกำลังกายก็เป็นอีกสิ่งสำคัญ โดยลดเลี่ยงอาหารแสลง รับประทาน ตามธาตุเจ้าเรือน อาหารที่มีรสมัน อย่างเช่น ธัญพืชต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ถั่วงา น้ำเต้าหู้ ผักโสน ถั่วเขียวต้มน้ำตาล ฯลฯ ซึ่งช่วยบำรุงกระดูกและเส้นเอ็น รวมถึงแนะนำท่าออกกำลังกายฤษีดัดตน โดยทำได้ด้วยตนเอง เช่น ท่าดำรงกายอายุยืน ด้วยการยืนขาแยก มือประสานคล้ายจับกระบอง ค่อย ๆ ย่อตัวลง หรือในท่านั่ง โดยนั่งเหยียดขา ยื่นออก ค่อย ๆ ใช้มือกดนวดไล่ลงจากเหนือเข่าถึงปลายเท้า และจากปลายเท้ากดไล่ขึ้นมา สำหรับท่านั่งทำติดต่อกันประมาณ 5-10 ครั้งติดต่อกัน จะช่วยเปิดทางเลือด ทางลม คลายความเมื่อยล้าและยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับข้อเข่า และชะลอการเสื่อมได้อีกด้วย

Cr:thaihealth สสส

คลิ๊กเลย ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชิโครี่ไฟเบอร์ แคลเซียม และวิตามินดี

โคลีนในไข่ไก่ป้องกัน “อัลไซเมอร์”

ที่มา : เว็บไซต์สยามรัฐออนไลน์

ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ

แฟ้มภาพ

บทความโดย สยามรัฐออนไลน์

ไข่ไก่ นอกจากจะเป็นอาหารคู่ครัวและเป็นหนึ่งในเมนูอาหารยอดนิยมของผู้บริโภคแล้ว ไข่ไก่ยังถือเป็นแหล่งโภชนาการชั้นเลิศ เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ทั้งโปรตีนคุณภาพดี ที่มีกรดอะมิโนที่สำคัญต่อร่างกายถึง 9 ชนิด รวมทั้งวิตามินเอ วิตามินบี2 วิตามินอี โอเมก้า3 โฟเลต ไรโบฟลาวิน โคลีน ลูทีน และแร่ธาตุต่างๆ ทั้งโพแทสเซียม สังกะสี ทองแดง ซีลีเนียม ฯลฯ

ที่สำคัญไข่ไก่ยังอุดมไปด้วยเลซิตินที่เป็นสารธรรมชาติที่ประกอบด้วยกรดไขมันจำเป็น ฟอสฟอรัส และวิตามินบี 2 ตัว ได้แก่ โคลีน (Choline) และอิโนซิทอล (Inositol) โดยเลซิตินมีความจำเป็นต่อขบวนการทำงานภายในเซลล์ต่างๆ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยบำรุงสมองและช่วยเสริมสร้างความจำ บำรุงและชะลอการเสื่อมของตับ และเป็นตัวช่วยสำคัญในการเร่งการเผาผลาญของคอเลสเตอรอล ช่วยลดความเสี่ยงต่อการอุดตันในเส้นเลือด

โดยเฉพาะโคลีน สารสื่อประสาทที่มีอยู่ในไข่ในรูปเลซิทิน ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่พบในเยื่อหุ้มเซลล์สมอง และเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างเซลล์สมอง ตั้งแต่เป็นทารกอยู่ในครรภ์จนถึงสิ้นอายุขัย และยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของ อะเซทิลโคลีน (acetylcholine) ซึ่งเป็นสารเคมีในเซลล์สมองที่ทำหน้าที่เป็น สารสื่อประสาท (neurotransmitter) ที่ช่วยให้การทำงานของสมองเป็นไปอย่างสมบูรณ์

ที่สำคัญอะเซทิล โคลีน ยังมีความสัมพันธ์โดยตรงกับโรคสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์ (alzheimers) ซึ่งเป็นภาวะสมองเสื่อมที่พบได้บ่อยที่สุด และเป็นโรคที่รักษาไม่หาย การป้องกันจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่ผ่านมาจึงมีการศึกษาวิจัยอย่างกว้างขวาง เกี่ยวกับปัจจัยที่จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคนี้

ดังเช่น รายงานของ Standing Committee on the Scientific Evaluation of Dietary Reference Intake, Food and Nutrition Board, Institute of Medicine. สหรัฐอเมริกา ที่ทำการศึกษาสารอาหารหลายชนิด มีข้อสรุปว่า โคลีน มีผลต่อขบวนการส่งกระแสประสาทที่เกี่ยวข้องกับความจำและการรับรู้ มีบทบาทต่อพัฒนาการด้านการเรียนรู้โดยเฉพาะระบบความจำ เนื่องจากเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างเซลล์สมอง

นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์กลุ่มดังกล่าวเชื่อว่า สารอะเซทิล โคลีน ช่วยทำให้มนุษย์มีความสามารถในการจดจำ และหากในสมองมีปริมาณของสารนี้ลดลง จะส่งผลให้เซลล์สมองมีปัญหาในการสื่อสาร จากการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอะซีติลโคลีนกับโรคอัลไซเมอร์ พบว่าในสมองของผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ จะมีปริมาณของอะซีติลโคลีนลดลงไปมากถึงร้อยละ 90 และเชื่อว่าเป็นเหตุทำให้ความสามารถในการจำและการใช้เหตุผลของผู้ป่วยลดลงตามไปด้วย ซึ่งรายงานดังกล่าวสอดคล้องกับการผลงานวิจัยของ Clin Ther (Jan 2003) ที่ศึกษาผลกระทบของสารอาหารต่อโรคอัลไซเมอร์ โดยสรุปผลว่าสารอะเซทิลโคลีน สามารถป้องกันและรักษาโรคอัลไซเมอร์ได้

ที่สำคัญยังมีการวิจัยหลายชิ้นสรุปผลอย่างเห็นพ้องต้องกันว่าไข่แดงของไข่ไก่ เป็นอาหารที่มีโคลีนอยู่ในปริมาณมากที่สุดชนิดหนึ่ง โดยมีมากถึงร้อยละ 20 ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน คือ 425 มิลลิกรัมต่อวันสำหรับผู้หญิง และ 550 มิลลิกรัมต่อวันสำหรับผู้ชาย และโคลีนยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดปฏิกิริยาการเผาผลาญอาหารจำนวนมาก และยังช่วยในการขนส่งไขมันในร่างกาย

เมื่อการกินไข่มีผลโดยตรงต่อการเพิ่มประสิทธิภาพความจำและความสามารถในการเรียนรู้ และยังช่วยชะลอการสูญเสียความทรงจำในผู้สูงอายุ และช่วยป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือดและหลอดเลือดหัวใจ เหตุผลเหล่านี้จึงทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสารอาหารในปัจจุบัน กำหนดให้โคลีนเป็นสารอาหารจำเป็นที่คนทุกเพศทุกวัยต้องบริโภค แม้ว่าร่างกายของคนเราจะสามารถผลิตโคลีนได้เอง แต่ปริมาณที่ได้ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการ จำเป็นต้องกินเพิ่มเติม โดยนอกจากไข่ไก่ที่มีโคลีนอยู่มากแล้ว ยังพบในเนื้อวัว ตับ ถั่วเหลือง บร็อกโคลี ดอกกะหล่ำ กะหล่ำปลี ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ถั่วดำ เมล็ดแฟลกซ์ และเมล็ดงา

ดังนั้นหากต้องการมีสุขภาพสมองและสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ไข่ไก่อาหารมหัศจรรย์ที่อัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์เต็มฟอง แถมราคาประหยัดและหาซื้อง่าย สามารถรับประทานได้ทุกเพศทุกวัย แม้แต่ผู้สูงอายุวัย 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่มีปัญหาสุขภาพสามารถบริโภคได้ทุกวัน จึงเป็นตัวเลือกที่ดีของผู้ที่รักสุขภาพอย่างแท้จริง

Cr: thaihealth สสส

คลิ๊กเลย บียอนด์ โอเมก 3 พลัส ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเสริมแหล่งไขมันชนิดที่ดีให้ร่างกาย

ภัยเงียบจากสัตว์เลี้ยงแสนรัก

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

แฟ้มภาพ

จากกรณีที่บรรดาคนเลี้ยงสุนัขพาเข้าร้านอาหาร ใช้จาน ชาม ช้อน สำหรับคนมาใช้กับสัตว์ หรือแม้แต่การพาสัตว์เลี้ยงเข้าไปในร้านสะดวกซื้อให้เกาะตู้กดน้ำแข็งบ้าง แอบเอาไปใส่ในตู้แช่น้ำดื่มบ้าง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม ซึ่งนอกจากจะเป็นเรื่องของความสะอาดแล้ว ยังมีปัญหาโรคภัยไข้เจ็บอีกเพียบ

ทั้งนี้ นสพ.พรพิทักษ์ พันธ์หล้า หัวหน้ากลุ่มโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน สำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข บอกว่า คนที่อยากเลี้ยงสุนัข เลี้ยงแมว นอกจากจะเลือกสัตว์มีที่มาที่ไปแล้ว สิ่งสำคัญคือการดูแลเรื่องสุขภาพอนามัย ความสะอาดของสัตว์เลี้ยงเหล่านั้นให้ดี เนื่องจากมีเชื้อโรคหลาย ๆ ตัวที่อยู่ในสัตว์เลี้ยงแสนรักที่สามารถแพร่มาสู่คนได้

ทั้งนี้ สุนัข และแมวอาจจะมีข้อแตกต่างกันอยู่บ้าง แต่สิ่งที่ทั้งคู่มีเหมือนกัน คือ เชื้อสเต็ปโตคอคคัส และสเต็ปฟิโลคอคคิ (Streptococcus and Staphylococci) ที่ทำให้เกิดโรคผิวหนัง การติดเชื้อที่ผิวหนัง รวมถึงมี ไข่พยาธิตัวกลม พยาธิไส้เดือน พยาธิเส้นด้าย หากสุนัขขับถ่ายไม่เป็นที่เป็นทางสุนัขหรือแมวอีกตัวรับเข้าได้ กลายเป็นวงจรเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ นอกจากนี้ยังมี "โปรโตซัว" ซึ่งสามารถก่อโรคท้องร่วงทั้งในคนและสุนัข แมว อย่างที่เจอ บ่อย ๆ คือเชื้อกลุ่ม "เจียรเดีย" (Giardia) รวมถึงเชื้อ ซาโมไนลาที่ก่อโรคท้องร่วงทั้งคนทั้งสัตว์

เชื้อท็อกโซพลาสโมสิส (Toxoplasmosis) มีอยู่ในสัตว์หลาย ๆ ประเภท แต่ปัญหาคือ "แมว" เป็นสัตว์พิเศษที่สามารถนำไข่ของเชื้อนี้สู่คนได้ โดยเฉพาะ "หญิงตั้งครรภ์"เมื่อรับเชื้อเข้าไปอาจทำให้แท้งได้ รวมถึงอาจทำให้ ทารกในครรภ์มีการเจริญเติบโตผิดปกติ ในต่างประเทศจะเข้มงวดเรื่องนี้มากขณะที่ประเทศไทยยังไม่ค่อยมีรายงานมากนัก แต่ก็มีการตรวจพบเชื้อดังกล่าวเช่นกัน

อีกโรคหนึ่งที่เจอได้คือ "โรคแมวข่วน" (Cat Scratch Fever) เนื่องจากแมวเป็นสัตว์ที่ชอบเลียสิ่งต่าง ๆ รวมถึงเล็บของตัวมันเอง ทำให้ที่เล็บมีแบคทีเรียเยอะ ประกอบกับการที่เป็นสัตว์ที่ชอบข่วน

ดังนั้น คนที่ถูกข่วนอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนัง ยิ่งถ้าเจอเชื้อ บาโทไนโลสิส (Bartonellosis) อาจจะทำให้อาการรุนแรงได้ นอกจากนี้ยังมี เชื้อราริงเวิร์ม(Ringworm) ก่อโรคผิวหนังคล้ายกับกลากเกลื้อน คนที่ภูมิคุ้มกันต่ำ ผู้สูงอายุ เด็ก คนป่วยหรือรับยากลุ่มสเตียรอยด์อยู่เสี่ยงติดเชื้อง่าย

"การติดเชื้อมีทั้งการกัด ข่วน การสัมผัสโดยตรง ซึ่งที่ผ่านมามีคนเคยศึกษาว่าการเลี้ยงดูสุนัข แมว ดีอย่างไรก็ตามแต่ต้องไม่ลืมว่าสัตว์เหล่านี้มีการสัมผัสเชื้อที่อยู่ในสิ่งแวดล้อม รวมถึงของเล่นสุนัข อาทิ กระดูกปลอม จะมีน้ำลาย เอาไปฝัง ไปซ่อนตามส่วนต่าง ๆ ก็มีโอกาสที่จะทำให้อุปกรณ์เหล่านี้เกิดการติดเชื้อได้ และแพร่สู่คนส่วนมากเจอกลุ่มโรคท้องเสีย"

นสพ.พรพิทักษ์ ระบุว่า สำหรับกรณีคนที่รักสัตว์เลี้ยงมาก คลุกคลีกันมาก ถึงขั้นใช้ภาชนะร่วมกันนั้นเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรทำ จริงอยู่ที่ว่ามีการล้างทำความสะอาดภาชนะเหล่านั้นอย่างดี แต่การติดเชื้อมันจะเกิดขึ้นระหว่างที่ใช้ภาชนะนั้น บางคนใช้ช้อนตักเข้าปากสุนัขคำ เข้าปากตัวเองคำ ก็ยิ่งเสี่ยง

เช่นเดียวกับ การจูบ หอม ก็ต้องตระหนักว่าขนาดเราแปรงฟันแล้วก็ยังมีแบคทีเรียในช่องปากอยู่ สุนัขก็เช่นกันมีโอกาสที่มีเชื้อบางอย่างที่แพร่มาทางน้ำลายได้เหมือนกัน นี่ยังไม่นับรวมโรคภูมิแพ้ขนสุนัข ขนแมว หรือโรคจากเห็บ หมัด ที่มีมากอีกด้วย.

 Cr:thaihealth สสส

มันเทศเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง

ที่มา: หนังสือพิมพ์นิวร้อยแปด

แฟ้มภาพ

มันเทศเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง บ้านเราสามารถซื้อหารับประทานได้ง่ายทั้งมันเผา หรือ มันนึ่ง อยากรู้ว่ามันเทศแต่ละสีมีประโยชน์อย่างไรไปฟังคำตอบกัน

ผศ.ดร.ปรัญรัชต์ ธนวิยุทธ์ภักดี อาจารย์ประจำสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า มันเทศเป็นแหล่งสำรองอาหารในภาวะวิกฤติ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการ เนื่องจากมันเทศเป็นพืชที่ทนต่อความแห้งแล้ง ใช้น้ำน้อยในการเจริญเติบโต ในบ้านเราการบริโภคมันเทศยังไม่เป็นที่แพร่หลาย อีกทั้งความรู้เกี่ยวกับคุณค่าทางโภชนาการจากมันเทศและอาหารจากมันเทศยังมีจำกัด มันเทศพันธุ์ไทยของเรานั้นมีหลายสี ทั้ง สีม่วง สีส้ม สีเหลือง และสีขาว ซึ่งจากงานวิจัยพบว่าคนไทยส่วนใหญ่นิยมรับประทานมันเทศสีม่วงมากที่สุด ซึ่งมันเทศแต่ละสีนั้นเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่สำคัญสัดส่วนอยู่ที่ 20 - 25 กรัม ต่อ 100 กรัมของมันเทศ โดยความต้องการคาร์โบไฮเดรตต่อวันจะอยู่ประมาณ 300 กรัม

ด้าน ผศ.ดร.เอกราช เกตวัลห์ อาจารย์ประจำสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า มันเทศแต่ละสีให้คุณค่าทางโภชนาการต่างกัน ดังนี้

มันเทศสีม่วง จะมีสารแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติช่วยชะลอสัญญาณแห่งวัย นอกจากนี้ยังลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด สารแอนโทไซยานิน ในมันเทศพันธุ์ไทยสีม่วง เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับของนอกอย่างตระกูล เบอร์รี่ พบว่ามันเทศพันธุ์ไทยบ้านเรามีเยอะกว่า หรือเมื่อเทียบกับมันเทศสายพันธุ์ญี่ปุ่น ซึ่งมันเทศสายพันธุ์แนะนำของไทยเรามีศักยภาพไม่แพ้กัน และอาจจะมากกว่าด้วย

มันเทศสีส้ม พบสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ เช่น สารเบต้าแคโรทีน ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง เสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย นอกจากนี้สารเบต้าแคโรทีนเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ ช่วยป้องกันโรคตาบอดกลางคืน

มันเทศสีเหลือง มีประโยชน์คล้ายคลึงกับมันเทศสีส้ม เนื่องจากพบสารเบต้าแคโรทีนเช่นเดียวกัน แต่พบในปริมาณที่น้อยกว่า ซึ่งการรับวิตามินเอจากพืชเป็นข้อดีอย่างยิ่ง เพราะจะไม่เกิดภาวะเป็นพิษเนื่องจากได้รับมากเกินไปดังเช่นได้รับจากแหล่งอื่น เช่น วิตามินเอจากสัตว์ เพราะร่างกายสามารถเลือกเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนที่ได้รับจากพืชเป็นวิตามินเอ ตามปริมาณที่ร่างกายต้องการได้รับเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะสะสมไว้ตามเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกายและจะทยอยดึงมาใช้ภายหลัง

มันเทศสายพันธุ์แนะนำของไทยยังมีเส้นใยอาหารสูงประมาณ 60 -70 % ของปริมาณใยอาหารที่ร่างกายต้องการต่อวัน (ปริมาณที่ร่างกายต้องการ 25 กรัม) เมื่อรับประทานเข้าไปจะอิ่มท้อง อีกทั้งเป็นสารที่ไม่ให้พลังงาน จึงช่วยควบคุมน้ำหนักตัวได้ ช่วยในการขับถ่าย ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

มันเทศที่เราเห็นบ่อยคือ มันเทศนึ่ง หรือเผา แต่ความจริงแล้วสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลาย ล่าสุด ทีมวิจัยของสถาบันโภชนาการ นำโดย ดร.ณัฐิรา อ่อนน้อม ได้พัฒนาเมนูอาหารบนโต๊ะจากมันเทศสายพันธุ์ไทยทั้ง 4 สีกว่า 30 เมนู เนื่องจากมันเทศสามารถเข้ากับส่วนผสมอื่นๆ ได้หลายชนิด จึงสามารถนำมาปรุงอาหารได้ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน และอาหารว่าง เช่น มัสมั่น ทอดมัน ห่อหมก แกงจืดเห็ดหอมหมูสับ ซุปไก่ ข้าวต้มเครื่อง วาฟเฟิล บัวลอย กระหรี่พัพ คัพเค้ก สังขยามันเทศ ขนมถ้วยฟู เม็ดขนุน ขนมมัน ไข่นกกระทา ตะโก้มันเทศ ข้าวเหนียวปิง ขนมหม้อแกง ซาลาเปา หมั่นโถ โตเกียวไส้หวาน ขนมปังฝรั่งเศส โดนัท และอีกหลายๆ เมนู

 Cr: สสส

ข้อมูลbeyonde Algae Calcium-D บนนิตยสาร PDR

BEYONDE ALGAE CALCIUM-D-     
Unilever Thai Trading Limited

----------

beyonde Algae Calcium-D
Chicory Fiber,
Calcium plus vitamin D Dietary supplement

DESCRIPTION

beyonde algae calcium D is one of the breakthrough innovations of nutritional supplement as an instant drink powder format with “CALCIUM PRO-ABSORPTION” technology – a nutrient cocktail which improves gastrointestinal balance and enhances calcium absorption to help restore bone calcium deficiency. The product mainly contains calcium from red algae, selective mixed inulin & fructo-oligofructose from chicory fiber and vitamin D3.

In addition, it also contains permitted food conditioners & additives; dextrose, malic acid, gum arabic, orange powder, erythritol, sodium citrate, betacarotene, glycine, sucralose.

BENEFITS AND RESEARCH

Calcium from diets can increase blood calcium and prevent bone loss. It helps maintain bone calcium, protect bone density and strengthen bone mass. In addition, calcium is also essential for muscles and nerves. Lack of calcium can cause muscles malfunction and lead to cramping.

Calcium from red algae, Lithothamnion calcareum, growing naturally under the sea of Iceland, provides bioactive calcium, magnesium and 72 other minerals. It is derived from the calcified structure of red algae, which absorbs trace minerals from the surrounding seawater. Calcium from red algae has a unique structure similar to plant cells, and possesses larger surface area than conventional calcium from limestones. This mineral-rich product is neutral taste, free of chalky texture, and absorbable by the human body.
Minerals and other nutrients are also essential for calcium absorption, and building strong bones and muscles. Vitamin D is the most important nutrient to help promoting calcium absorption in intestine. A combination of vitamin D and calcium can increase calcium absorptivity by 3-4 times compared to single calcium supplementation. The study in a sample group of 389 patients, aged 70-75 years, receiving calcium 500 mg + Vit D 700 IU every night before bedtime for three years was found that the group with supplementation has lower rate of bone fractures than those who did not take (Bess Dawson, 1997). Another study in a sample group of 120 women, aged 45-55 years, had been taking calcium 500 mg + Vit. D 200 IU every day for three years was found to have the higher bone mineral than those who did not consume (Nicola Di Daniele, 2004).
Inulin & fructo-oligofructose are prebiotics beneficially for health. They are selectively fermented by bifidobacteria and lactobacilli which are beneficial microorganisms in the colon. Their fermentation generates end products such as lactic acid and short chain fatty acids, which allow the colonic condition to increase calcium absorption.
A study of 8 weeks supplementation with 8 grams of selective mixed inulin & fructo-oligofructose from chicory fiber (Abrams, 2007) showed that it can enhance the calcium absorption occurred principally in the colon. In addition, calcium absorption can still be traced over 24 hour period after oral supplementation of the mixed inulin & fructooligofructose.
In postmenopausal women, the high risk group for bone mineral loss & osteoporosis, there is a study on 6 weeks supplementation of selective mixed inulin & fructo-oligofructose from chicory fiber on intestinal absorption of calcium and bone turnover markers (Holloway, 2007). It demonstrated that the absorption of calcium is significantly increased (123%) after 5g per day treatment with the selective mixed inulin & fructo-oligofructose from chicory fiber.

USAGE

Mix 1 sachet with 120-150 ml of water and drink instantly. It is recommended to take 1-2 sachets a day.

SAFETY AND WARNINGS

For children, the recommended intake level for less than 15kg body weight is 1 sachet a day. It may possibly induce laxation in the 4-10 year old children consuming calcium drink due to the aggregate exposure to erythritol from different sources of food.

HOW SUPPLIED

Available in 15 sachets in a pouch.

REFERENCES

1)

Abrams , Steven A ; Griffin , Ian J ; Hawthorne , Keli M ; Liang , Lily ; Gunn , Sheila K ; Darlington , Gretchen ; Ellis , Kenneth J, Combination of Prebiotic Short- and Long-chain Inulin-type Fructans Enhances Calcium Absorption and Bone Mineralization in Young Adolescents, American journal of clinical nutrition, 2005, Vol.82(2), pp.471-476

2)

Abrams , Steven A. ; Hawthorne , Keli M. ; Aliu , Oluseyi ; Hicks , Penni D. ; Chen , Zhensheng ; Griffin , Ian J.Inulin-Type Fructan Enhances Calcium Absorption Primarily via an Effect on Colonic Absorption in Humans, Journal of nutrition, 2007, Vol.137(10), pp.2208-2212.

3)

Aquamin Nutrition test certificate.

4)

Bess Dawson-Hughes, M.D., Susans. Harris D.Sc. Elizabeth A. Krall, Ph.D. and Gerard E. Dallal, Ph.D., Effect of Calcium and Vitamin D Supplement on Bone Density in Men and Women 65 Years of Age or Older (1997).

5)

Bronner, Felix ; Pansu, Danielle, Nutritional Aspects of Calcium Absorption, Journal of Nutrition, 2000, Vol.130(1), pp.9-12.

6)

C Coudray ; J Bellanger ; C Castiglia-Delavaud ; C Rémésy ; M Vermorel ; Y Rayssignuier, Effect of soluble or partly soluble dietary fibers supplementation on absorption and balance of calcium, magnesium, iron and zinc in healthy young men, European Journal of Clinical Nutrition, 1997, Vol.51(6), p.375.

7)

Connie M , Robert P; Calcium in Human Health,2006, (chapter9 Food Sources Supplement and bioavailability)

8)

Daniele, Nicola Di ; Carbonelli, Maria Grazia ; Candeloro, Nicola ; Iacopino, Leonardo ; De Lorenzo, Antonino ; Andreoli, Angela, Effect of supplementation of calcium and Vitamin D on bone mineral density and bone mineral content in peri- and post-menopause women: A double-blind, randomized, controlled trial, Pharmacological Research, 2004, Vol.50(6), pp.637-641.

9)

Fleet, James C. ; Schoch, Ryan D., Molecular mechanisms for regulation of intestinal calcium absorption by vitamin D and other factors, Critical Reviews in Clinical Laboratory Sciences, 2010, Vol.47(4), p.181-195.

10)

Griffin, I. J ; Davila, P. M ; Abrams, S. A, Non-digestible oligosaccharides and calcium absorption in girls with adequate calcium intakes, British Journal of Nutrition, 2002, Vol.87(S2), pp.S187-S191.

11)

Griffin, Ian J ; Hicks, Penni M.D ; Heaney, Robert P ; Abrams, Steven A, Enriched chicory inulin increases calcium absorption mainly in girls with lower calcium absorption, Nutrition Research, 2003, Vol.23(7), pp.901-909.

12)

Heaney, Robert ; Recker, Robert ; Weaver, Connie, Absorbability of calcium sources: The limited role of solubility, Calcified Tissue International, 1990, Vol.46(5), pp.300-304.

13)

Heuvel , E.G.H.M. Van Den ; Muys , T. ; Dokkum , W. Van. ; Schaafsma , G., Oligofructose stimulates calcium absorption in adolescents, American Journal of Clinical Nutrition, 1999, Vol.69(3), pp.544-548.

14)

Holloway, Leah ; Moynihan, Sharon ; Abrams, Steven A ; Kent, Kyla ; Hsu, Andrew R ; Friedlander, Anne L, Effects of oligofructoseenriched inulin on intestinal absorption of calcium and magnesium and bone turnover markers in postmenopausal women, British Journal of Nutrition, 2007, Vol.97(2), pp.365-372.

15)

http://www.kidneyatlas.org/book1/adk1_05.pdf(search on April 1,2006).

16)

Keiko Sakuma, Molecular Mechanism of the Effect of Fructo-oligosaccharides on Calcium Absorption, Bioscience and Microflora, 2002, Vol.21(1), pp.13-20.

17)

Lacour, B ; Tardivel, S ; Drüeke, T, Stimulation by citric acid of calcium and phosphorus bioavailability in rats fed a calcium-rich diet. Mineral and electrolyte metabolism, 1997, Vol.23(2), pp.79-87.

18)

Meiron, Oren E ; Bar-david, Elad ; Aflalo, Eliahu D ; Shechter, Assaf ; Stepensky, David ; Berman, Amir ; Sagi, Amir, Solubility and bioavailability of stabilized amorphous calcium carbonate, Journal of Bone and Mineral Research, 2011,Vol.26(2), pp.364-372.

19)

Nicola Di Daniele, Maria Grazia Carbonelli, Nicola Candeloro, Leonardo Iacopino, Antonino De Lorenzo-, Angela Andreoli. Effect of supplementation of calcium and Vitamin D on bone mineral density and bone mineral content in peri- and post-menopause women A double-blind, randomized, controlled trial, Pharmacological Research 50 , 2004, 637–641.

20)

Souza, Maria Cristina Corrêa de ; Lajolo, Franco Maria ; Martini, Ligia de Araujo ; Correa, Nelton Bespalez ; Dan, Milana Cara ; Menezes, Elizabete Wenzel de, Effect of oligofructose-enriched inulin on bone metabolism in girls with low calcium intakes, 2010, Vol.53(1), p.193-201.

21)

Vavrusova, Martina ; Skibsted, Leif H., Calcium nutrition. Bioavailability and fortification LWT - Food Science and Technology, 2014, Vol.59(2), pp.1198-1204.

22)

Yotsanan Weerapol ; Kamonrak Cheewatanakornkool ; Pornsak Sriamornsak, Impact of Gastric pH and Dietary Fiber on Calcium Availability of Various Calcium Salts, Silpakorn University Science and Technology Journal, 2010, Vol.4(1), pp.15-23.

PRODUCT PHOTO

NOTE: These photos can be used only for identification by shape, color, and imprint. They do not depict actual or relative size.

The product samples shown here have been supplied by the manufacturer and reproduced in full color by PDR as a quick-reference identification aid. While every effort has been made to assure accurate reproduction, please remember that any visual identification should be considered preliminary. In cases of poisoning or suspected over dosage, the drug's identity should be verified by chemical analysis.

 

 

Cr: beyonde Algae Calcium-D PDR

 

 

สนใจสินค้าคลิ๊ก https://www.avianceshop.com/beyonde-algae-calcium-d?promo_code=TH3136389

Beyonde Life Sential บนนิตยสาร PDR

BEYONDE LIFE SENTIAL-   
Unilever Thai Trading Limited

----------

beyonde Life Sential
Multivitamins Plus Minerals /
S-O-D Plus Coenzyme Q10 /
Chlorella Plus Shiitake

DESCRIPTION

beyonde Life Sential is a revolutionary dietary supplement which contains Vitamins, Minerals, Amino Acids and Phytomolecules for helping restore strength, defend against stress and fatigue and protect immunity at the cellular level.

The product contains 3 tablets which are;

1)

Multivitamins and Minerals plus Amino Acids (Vitamin A, Vitamin C, Vitamin E, Vitamin B1, Vitamin B2, Vitamin B3, Vitamin B5, Vitamin B6, Vitamin B12, Folic acid, Magnesium, Chromium, Iron, Selenium, Copper, Manganese, Zinc, Iodine, Calcium, L-Leucine, L-Isoleucine, L-Valine, L-Arginine, L-Methionine).

2)

SOD plus Coenzyme Q10 (Superoxide Dismutase from French Melon Juice Extract, Coenzyme Q10, Sodium Copper Chlorophyllin)

3)

Chlorella Plus Shiitake (Nucleotides complex from Chlorella vulgaris & Bioactive Beta -glucan from Shiitake mycelium)

In addition to those active ingredients, beyonde Life Sential also contains microcrystalline cellulose, calcium carbonate, croscarmellose sodium, colloidal silicon dioxide, pregelatinized starch, caramel powdered color, magnesium stearate, hydroxypropyl methylcellulose, hydroxypropyl cellulose-L, talcum and polyethylene glycol.

BENEFITS AND RESEARCH

Multivitamins and Minerals play many important roles in human body such as; delivering nutrients to cells and organs for cellular metabolism & energy production, regulating neurological processes and supporting eye sight, heart, skin, immunity, blood cell, muscles and bone functions.

Leucine, Iso-leucine, Valine, Arginine and Methionine are amino acids which help improve complication in chronic fatigue. A research found that the plasma levels of Leucine, Iso-leucine, Valine, Arginine and Methionine are decreased in chronic fatigue subjects. Supplementation of these amino acids is possibly positive effect. Fatigues has been found to affect the neurotransmitter level, in particular 5-Hydroxytryptamine (5-HT), decrease metabolism in brain, sleep quality, mood and emotion. Branched-chain amino acids (L-Leucine, L-Isoleucine, L-Valine) can elevate 5-HT balance which then relieve fatigue and stress, and enhance cell functions and physical endurance. L-Arginine serves as a precursor for the synthesis of growth hormone, supports vascular and heart functions, regulates nitric oxide level and blood flow, and promotes energy expenditure function of mitochondria. L-Methionine is a major amino acid for brain functions, as being previously been used for treatment of depression.
Superoxide Dismutase or SOD enzyme is one of the most crucial antioxidants found in cells. It helps prolong cell lifespan, reduce body & brain stress, increase attention span and memory. A clinical study in 61 healthy subjects, 30 to 65 years old, with a certain level of stress and fatigue but without any depressive symptoms, demonstrated the significant reduction of stress induced by a one-month supplementation with 140 IU of SOD from French melon juice extract. According to the study, French melon SOD enzyme supplementation can be also very beneficial for the complete fatigue condition, by reducing both physical and cognitive fatigue. beyonde Life Sential contains 140 IU of SOD from French melon juice extract per serving.
Co-enzyme Q 10 (CoQ10) helps prolong life and enhances energy production in cells of important organs such as heart, brain, liver, kidney, and muscle. CoQ10 level in human starts to decrease after the age of 20. Supplementation of CoQ10 can slow down cell aging and reduce risks of chronic diseases that might occur in aging people. Chlorophyll has been found to protect cells from damages by free radicals, radiations, and toxins. Sodium copper chlorophyllin is better absorbed than chlorophyll existed in fruits and vegetables.
Nucleotides complex from Chlorella vulgaris is the concentrated nutrient specially extracted from the nucleus of Chlorella vulgaris algae. It is full of amino acids, vitamins, and minerals, especially “Nucleotide complex”. Nucleotide complex improves natural immunity and protects DNA in the cells from various toxins that lead to tumors and cancers. A study in healthy subjects showed that the extract from Chlorella vulgaris can significantly increase the production of cytokines in a human cell line.
Bioactive Beta-glucan from Shiitake mycelium cultivated with a special technique to obtain bioactive beta-glucan with special 3D helix structure, so called Lentinan. This bioactive beta-glucan possesses the biological efficiency in stimulating the production of Lymphocytes, Macrophages, NK-cells, Interferon and were found to suppress cancer recurrence, prolong the lifespan of Cancer & HIV patients. A double-blind, cross-over, placebo-controlled trial in 42 subjects revealed that Beta-glucan from Shiitake mycelium can increase the number of B-cells which help produce antibody to fight off infections.

USAGE

Take 1 sachet containing 3 tablets after meal with a glass of water.

SAFETY AND WARNINGS

While there are no acute toxicity concerns, continuous exposure to some components of this product at the levels provided by the maximum recommended dose should be done with the knowledge of the consumer's health care provider. Do not exceed 4 sachets per day. Not recommended for children and pregnant women. The product contains Mushroom and Soy.

HOW SUPPLIED

Available in 30 packets of 3 tablets in carton box

REFERENCES

1)

da Luz, C.R. ; Nicastro, H. ; Zanchi, N.E. ; Chaves, D.F.S. ; Lancha Jr, A.H. Potential therapeutic effects of branched-chain amino acids supplementation on resistance exercise-based muscle damage in humans. Journal of the International Society of Sports Nutrition, 14 December 2011, Vol.8.

2)

Ewart HS, Bloch O, Girouard GS, Kralovec J, Barrow CJ, Ben-Yehudah G, Suárez ER, Rapoport MJ, Stimulation of cytokine production in human peripheral blood mononuclear cells by an aqueous Chlorella extract., Planta Medica [2007, 73(8):762-768].

3)

French, Glyn N. “Exercise-induced muscle damage is reduced in resistance-trained males by branched chain amino acids: a randomized, double-blind, placebo controlled study.” Journal of the International Society of Sports Nutrition 9.1 (2012): 20-20.

4)

Gad, M.Z., Anti-aging effects of L-arginine, Journal of Advanced Research, July 2010, Vol.1(3), pp.169-177.

5)

Garlick, P.J., Toxicity of methionine in humans, Journal of Nutrition, June 2006, Vol.136(6), pp.1722S-1725S.

6)

Giroux, I. ; Kurowska, E.M. ; Carroll, K.K. Role of dietary lysine, methionine, and arginine in the regulation of hypercholesterolemia in rabbits. Journal of Nutritional Biochemistry, March 1999, Vol.10(3), pp.166-171.

7)

Humberto J. Morrisa, Olimpia Carrillob, Angel Almaralesc, Rosa C. Bermúdeza, Yamila Lebequea, Roberto Fontainea, Gabriel Llauradóa, Yaixa Beltrána, Immunostimulant activity of an enzymatic protein hydrolysate from green microalga Chlorella vulgaris on undernourished mice, Enzyme and Microbial Technology, Volume 40, Issue 3, 5 February 2007, Pages 456–460.

8)

Hyo-Jin An, Hong-Kun Rim, Jong-Hyun Lee, Jin-Woo Hong, Na-Hyung Kim, Noh-Yil Myung, Phil-Dong Moon, In-Young Choi, Ho-Jeong Na, Hyun-Ja Jeong, Hyeung-Suk Park, Jae-Gab Han, Jae-Young Um, Hyung-Min Kim, Effect of Chlorella vulgaris on Immune-enhancement and Cytokine Production in vivo and in vitro, Food Science and Biotechnology 2008 ; 17(5): 953-958.

9)

Isoda N1, Eguchi Y, Nukaya H, Hosho K, Suga Y, Suga T, Nakazawa S, Sugano K., Clinical efficacy of superfine dispersed lentinan (beta-1,3-glucan) in patients with hepatocellular carcinoma., Hepatogastroenterology. 2009 Mar-Apr;56(90):437-41.

10)

JM. Gaullier, J. Sleboda, E. Snorre Ø, E. Ulvestad, M. Nurminiemi, C. Moe, T. Albrektsen, O.Gudmundsen., Six weeks supplementation with a beta-glucan exported from shiitake mycelium, induce immune response in healthy, elderly humans.- A cross-over, placebo-controlled study. (Unpublished).

11)

Konishi F, Tanaka K, Himeno K, Taniguchi K, Nomoto K.,Antitumor effect induced by a hot water extract of Chlorella vulgaris (CE): resistance to Meth-A tumor growth mediated by CE-induced polymorphonuclear leukocytes., Cancer Immunol Immunother. 1985;19(2):73-8.

12)

Konishi F1, Mitsuyama M, Okuda M, Tanaka K, Hasegawa T, Nomoto K., Protective effect of an acidic glycoprotein obtained from culture of Chlorella vulgaris against myelosuppression by 5-fluorouracil. Cancer Immunol Immunother. 1996 Jun;42(5):268-74.

13)

Konishi F1, Tanaka K, Kumamoto S, Hasegawa T, Okuda M, Yano I, Yoshikai Y, Nomoto K., Enhanced resistance against Escherichia coli infection by subcutaneous administration of the hot-water extract of Chlorella vulgaris in cyclophosphamide-treated mice. Cancer Immunol Immunother. 1990;32(1):1-7.

14)

Lanfer-Marquez, U.M. ; Barros, R.M.C. ; Sinnecker, P. Antioxidant activity of chlorophylls and their derivatives ,Food Research International, October 2005, Vol.38(8-9), pp.885-891.

15)

Milesi, M.-A. ; Lacan, D. ; Brosse, H . ; Desor, D. ; Notin, C., Effect of an oral supplementation with a proprietary melon juice concentrate (Extramel ® ) on stress and fatigue in healthy people: A pilot, double-blind, placebo-controlled clinical trial , Nutrition Journal, 2009, Vol.8(1).

16)

Mischoulon, D. ; Fava, M., Role of S-adenosyl-L-methionine in the treatment of depression: A review of the evidence, American Journal of Clinical Nutrition, 1 November 2002, Vol.76(5), pp.1158S-1161S

17)

Rodney L. Levine, Jackob Moskovitz and Earl R. Stadtman, Oxidation of Methionine in Proteins: Roles in Antioxidant Defense and Cellular Regulation, IUBMB LIFE Volume 50, Issue 4-5, October 2000, Pages: 301–307,

18)

Sia GM, Candlish JK., Effects of shiitake (Lentinus edodes) extract on human neutrophils and the U937 monocytic cell line., Phytother Res. 1999 Mar;13(2):133-7.

19)

Takashi Hasegawa, a, Yuki Kimurab, Kenji Hiromatsub, Noritada Kobayashib, Akira Yamadac, Masahiko Makinod, Masao Okudaa, Toshihiko Sanoa, Kikuo Nomotoe, Yasunobu Yoshikaib, Effect of hot water extract of Chlorella vulgaris on cytokine expression patterns in mice with murine acquired immunodeficiency syndrome after infection with Listeria monocytogenes, Immunopharmacology, Volume 35, Issue 3, January 1997, Pages 273–282.

20)

Tanaka K1, Yamada A, Noda K, Hasegawa T, Okuda M, Shoyama Y, Nomoto K., A novel glycoprotein obtained from Chlorella vulgaris strain CK22 shows antimetastatic immunopotentiation., Cancer Immunol Immunother. 1998 Feb;45(6):313-20.

21)

Yasmin Anum Mohd Yusof,I Suhana Md. Saad,II Suzana Makpol,I Nor Aripin Shamaan,III and Wan Zurinah Wan NgahI, Hot water extract of Chlorella vulgaris induced DNA damage and apoptosis, Clinics (Sao Paulo). Dec 2010; 65(12): 1371–1377.

22)

Yoshiharu Shimomura, Yuko Yamamoto, Gustavo Bajotto, Juichi Sato, Taro Murakami, Noriko Shimomura, Hisamine Kobayashi, and Kazunori Mawatari, Nutraceutical Effects of Branched-Chain Amino Acids on Skeletal Muscle, The Journal of Nutrition. Page:529S-532S.

PRODUCT PHOTO

NOTE: These photos can be used only for identification by shape, color, and imprint. They do not depict actual or relative size.

The product samples shown here have been supplied by the manufacturer and reproduced in full color by PDR as a quick-reference identification aid. While every effort has been made to assure accurate reproduction, please remember that any visual identification should be considered preliminary. In cases of poisoning or suspected over dosage, the drug's identity should be verified by chemical analysis.

 

 

 

Cr: Beyonde Life Sential PDR

 

 

สนใจผลิตภัณฑ์ คลิ๊ก https://www.avianceshop.com/beyonde-life-sential?promo_code=TH3136389

BEYONDE MAQUI PLUS ตีพิมพ์ในนิตยสาร PDR

 

 

 

 

BEYONDE MAQUI PLUS+-   
Unilever Thai Trading Limited

----------

BEYONDE MAQUI PLUS+
Multi Fruits & Berries Concentrate Drink

DESCRIPTION

beyonde Maqui Plus+ is the concentrate antioxidant drink from the proprietary natural combination of Multi Fruits & Berries Concentrate which contains 12 fruits including Maqui Berry, Artichoke, Goji Berry, Acai, Acerola Cherry, Raspberry, Red Grape & Grape Seed Extract, Chokeberry, Cranberry, Apple, Strawberry and Cherry.

Regular consumption of Maqui Plus+, a combination of multi-fruits and berries concentrate, provides high levels of natural antioxidants which help reduce free radicals in the body, prevent oxidative stress, reduce risks of age-related diseases, and promote overall well-being.
In addition, it also contains fructose, pectin and sodium benzoate. The product is aseptic bottled in amber glass container in order to preserve its antioxidant capacity.

BENEFITS AND RESEARCH

Maqui berry is an exotic deep purple berry found in Chile, known as Chilean wineberry. It is reported that Maqui berry has exceptionally high antioxidant capacity. The major antioxidants in Maqui berry are anthocyanins, the group of deep-purple phytonutrients found in blue and purple color fruits. Anthocyanins have antioxidative property which can fight against free radicals, thus delay the aging of cells due to exposure of free radicals. Research indicates that anthocyanins can reduce risks of aging diseases such as heart disease, cancer, Alzheimer's disease, Parkinson's disease and reduce diabetes complications. It also helps improve blood circulation in the eye peripheral capillary and slows down degeneration of eye and vision. Many in vitro & in vivo studies also showed that high anthocyanins content enables Maqui berry to promote insulin functions and regulate blood sugar levels.

Artichoke is widely cultivated in Mediterranean, Europe, Australia and North America. It is a medicinal plant with high antioxidants, minerals and fibers. The important antioxidant in Artichoke is Cynarin which has been proven beneficial for health, in particular, improving liver functions. It enhances antioxidant capacity of the liver, hence aiding in its detoxification functions.
Gojiberry is a small orange-red berry which is well known in traditional Chinese herbal medicine. It is rich in vitamins and antioxidants e.g. Betacarotene, Lycopene, L.barbarum Polysaccharides. Gojiberry is widely used as functional food with broad health benefits such as aiding detoxification process in the liver, promoting the liver regeneration, anti-tumor and inhibit cancer cell growth (e.g. colon cancer, prostate cancer and liver cancer).
A study in 20 adults who smoke or drink alcohol regularly showed that Maqui Plus+ supplementation significantly increased glutathione (GSH), the activities of glutathione peroxidase (GSH-Px), glutathione reductase (GSH-Rd), superoxide dismutase (SOD) and decreased thiobarbituric acid reactive substances (TBARS) compared with the placebo. Additionally, hepatic and renal functions were not adversely altered in Maqui Plus+ ingested subjects. It is suggested that Maqui Plus+ effectively promotes the endogenous antioxidant activity, and can be consumed as a functional supplement for people who are in danger of suffering oxidative-related chronic diseases.

USAGE

Take 1 shot (25 ml) twice daily, morning & evening. Consumption can be increased to 2 shots (50 ml) twice daily as required.

SAFETY AND WARNINGS

Allergies to fruits (e.g., berries) and other plant components of this product could occur, but would be rare. Ingestion of large amounts of concentrate could occur which may result in gastrointestinal distress such as vomiting, cramping and diarrhea. This could be a concern for an accidental ingestion of large amounts of concentrate, especially by a child.

HOW SUPPLIED

50 ml & 750 ml bottle

REFERENCES

1. Güldal Mehmetçik, Gül Özdemirler, Necla Koçak-Toker, Ugur Çevikbas, Müjdat Uysal, Effect of pretreatment with artichoke extract on carbon tetrachloride-induced liver injury and oxidative stress, Experimental and Toxicologic Pathology, Volume 60, Issue 6, 18 September 2008, Pages 475-480.
2. Bo-Han Wu, Wen-Chao Wang, Hsin-Yu Kuo, Effect of Multi-berries Drink on Endogenous Antioxidant Activity in Subjects Who Are Regular Smokers or Drinkers, Journal of Food and Nutrition Research, Vol. 4, No. 5, 2016, pp 289-295. doi: 10.12691/jfnr-4-5-4 | A Clinical Study
3. BoKang Cui, YanFeng Chen, Su Liu, Jun Wang, ShuHong Li, QiBo Wang, ShengPing Li, MinShan Chen, XiaoJun Lin, Antitumour activity of Lycium chinensis polysaccharides in liver cancer rats, International Journal of Biological Macromolecules, Volume 51, Issue 3, October 2012, Pages 314-318.
4. Carolina Fredes, Gloria Montenegro, Juan Pablo Zoffoli, Miguel Gómez, and Paz Rober, Chilean Journal of Agricultural Research 72(4) October-December 2012 Scientific Note's Polyphenol Content and Anti-oxidant Activity of Maqui (Aristotelia chilensis (Molina) Stuntz) During Fruit Development and Maturation in Central Chile, Chilean Journal of Agricultural Research 72(4) October-December 2012, pages 582-589.
5. Escribano-Bailón MT, Alcalde-Eon C, Muñoz O, Rivas-Gonzalo JC, Santos-Buelga C., Anthocyanins in berries of Maqui (Aristotelia chilensis (Mol.) Stuntz).,Phytochem Anal. 2006 Jan-Feb;17(1):8-14.
6. K. Kraft, Artichoke leaf extract — Recent findings reflecting effects on lipid metabolism, liver and gastrointestinal tracts, Phytomedicine, Volume 4, Issue 4, December 1997, Pages 369-378.
7. Leonel E. Rojo, David Ribnicky, Sithes Logendra, Alex Poulev, Patricio Rojas-Silva, Peter Kuhn, Ruth Dorn, Mary H. Grace, Mary Ann Lila, Ilya Raskin, In vitro and in vivo anti-diabetic effects of anthocyanins from Maqui Berry (Aristotelia chilensis), Food Chemistry, Volume 131, Issue 2, 15 March 2012, Pages 387-396.
8. Mingliang Jin, Qingsheng Huang, Ke Zhao, Peng Shang, Biological activities and potential health benefit effects of polysaccharides isolated from Lycium barbarum L., International Journal of Biological Macromolecules, Volume 54, March 2013, Pages 16-23.
9. Miranda-Rottmann S, Aspillaga AA, Pérez DD, Vasquez L, Martinez AL, Leighton F, Juice and phenolic fractions of the berry Aristotelia chilensis inhibit LDL oxidation in vitro and protect human endothelial cells against oxidative stress., J Agric Food Chem. 2002 Dec 18;50(26):7542-7.
10. Nello Ceccarelli, Maurizio Curadi, Piero Picciarelli, Luca Martelloni, Cristiana Sbrana, Manuela Giovannetti, Globe artichoke as a functional food, Mediterranean Journal of Nutrition and Metabolism, December 2010, Volume 3, Issue 3, Pages 197-201.
11. Qiong Luo, Yizhong Cai, Jun Yan, Mei Sun, Harold Corke, Hypoglycemic and hypolipidemic effects and antioxidant activity of fruit extracts from Lycium barbarum, Life Sciences, Volume 76, Issue 2, 26 November 2004, Pages 137-149
12. Tanaka J, Kadekaru T, Ogawa K, Hitoe S, Shimoda H, Hara H., Maqui berry (Aristotelia chilensis) and the constituent delphinidin glycoside inhibit photoreceptor cell death induced by visible light., Food Chem. 2013 Aug 15;139(1-4):129-37.
13. Vincenzo Lattanzio, Paul A. Kroon, Vito Linsalata, Angela Cardinali, Globe artichoke: A functional food and source of nutraceutical ingredients, Journal of Functional Foods, Volume 1, Issue 2, April 2009, Pages 131-144.

PRODUCT PHOTO

NOTE: These photos can be used only for identification by shape, color, and imprint. They do not depict actual or relative size.

The product samples shown here have been supplied by the manufacturer and reproduced in full color by PDR as a quick-reference identification aid. While every effort has been made to assure accurate reproduction, please remember that any visual identification should be considered preliminary. In cases of poisoning or suspected over dosage, the drug's identity should be verified by chemical analysis.

 

Cr: ข้อมูลมากิพลัสจาก PDR

ร่วมฉลองความสำเร็จกับ บียอนด์ มากิ พลัส

                          ร่วมแสดงความยินดีกับผลิตภัณฑ์คุณภาพ บียอนด์ มากิ พลัส ที่คว้ารางวัลระดับโลกถึง 4 รางวัล

 

       

 

บียอนด์ มากิ พลัส เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมสำคัญอย่าง มากิเบอร์รี่ (Maqui Berry)  เบอร์รี่พันธุ์พื้นเมืองจากประเทศชิลี โดยมีผลการวิจัยพบว่า มีค่าการต่อต้านอนุมูลอิสระ (Orac) วัดได้สูง เพราะมีสารสำคัญคือ แอนโทไซนานิน (Anthocyanin) ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยชะลอสภาวะเสื่อมของเซลล์ รวมถึงชะลอกระบวนการอักเสบชนิดเรื้อรัง พร้อมกับผลไม้อีกหลายชนิดที่จัดเป็นซุปเปอร์ฟรุต  โดยรางวัลทั้ง 4 ที่ บียอนด์ มากิ พลัส ได้รับ ได้แก่

- รางวัลเหรียญบรอนซ์ด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์จากการประกวด iENA ประจำปี 2015 โดย iENA ถือเป็นนิทรรศการระดับโลกเกี่ยวกับการคิดค้น นวัตกรรม ซึ่งมีมาตรฐานการตัดสินที่สูงมาก เนื่องจากคณะกรรมการพิจารณาโดยให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพ และนวัตกรรมที่ใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์
 

- รางวัลเหรียญทองสูงสุด ด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์และรสชาติ MONDE SELECTION Grand Gold Quality Award 2016, Bruxelles International Quality Institute ประเทศเบลเยี่ยม Monde Selection เป็นสถาบันนานาชาติที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเกี่ยวกับอาหาร เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เพื่อภารกิจในการทดสอบและวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคจากทั่วทุกมุมโลก และคัดเลือกผลิตภัณฑ์ชั้นเลิศที่ผ่านมาตรฐานอันเข้มงวดของสถาบัน โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิในแขนงต่างๆ 

- รางวัลเหรียญทอง GOLD MEDAL จากการประกวดผลงานการประดิษฐ์ระดับนานาชาติ ครั้งที่ 44 ณ กรุงเจนิวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งถือเป็นงานประกวดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของโลก มุ่งเน้นคัดเลือกและมอบรางวัลแก่ผลงานการประดิษฐ์อันโดดเด่นจากทั่วโลก โดยพิจารณาจากความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมและคุณภาพของผลงาน 

- รางวัลแบรนด์สุขภาพยอดเยี่ยม ด้านผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่อต้านอนุมูลอิสระจาก The BrandLaureate ประเทศมาเลเซีย ประจำปี 2015-2016 โดย The BrandLaureate เป็นสถาบันที่มุ่งเน้นการพัฒนาแบรนด์จากทั่วทุกมุมโลก โดยตระหนักถึงความมุ่งมั่นในการสร้างและโปรโมทแบรนด์ ทั้งแบรนด์ผลิตภัณฑ์ แบรนด์องค์กรธุรกิจ รวมไปถึงแบรนด์ของบุคลากรชั้นนำของโลก ซึ่งผู้ที่เคยได้รับรางวัลนี้ อย่างเช่น เนลสัน แมนเดลา, มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก 

รางวัลเหล่านี้ถือเป็นการการันตีคุณภาพของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดน้ำจากซุปเปอร์ฟรุตและเบอร์รี่เข้มข้น มากิ พลัส ได้เป็นอย่างดี โดย บียอนด์ มากิ พลัส ไม่เพียงแต่ดูแลสุขภาพคนในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังดูแลผู้คนในประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และกัมพูชา ตามธุรกิจเครือข่ายที่ขยายเติบโตขึ้น และในอนาคตอาจได้ดูแลสุขภาพผู้คนทั่วโลก

 

 

ข้อมูลจาก : https://www.unilever.co.th/news/press-releases/2016/Congratulations-to-Beyonde-Maqui-Plus.html